Page 4 - การอ่านแผนที่อากาศ
P. 4
1
บทที่ 1
ข้อสังเกตสภาวะอากาศของประเทศไทยรายเดือน
ื้
ื่
เพอเป็นการปูพนฐานความรู้ของนักเรียนหลักสูตรเจ้าหน้าที่ข่าวอากาศ การอ่านแผนที่อากาศผิวพน
ื้
แผนที่ความกดอากาศเปลี่ยนแปลง และแผนที่ลมชั้นบน เบื้องต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งในการเตรียมตัว
ก่อนที่จะไปศึกษาหลักสูตรเจ้าหน้าที่เทคนิคข่าวอากาศ โดยเอกสารบทนี้จึงได้รวบรวมลักษณะอากาศในแต่ละเดือน
มาให้ศึกษาดังนี้
1. เดือนมกราคม
ลักษณะทั่วไป ลิ่มความกดอากาศสูงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะนี้
อากาศจะหนาวจัดอย่างเห็นได้ชัดเจน และในฤดูนี้จะมีร่องความกดอากาศหรือหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณ
สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเข้ามาผ่านตอนบนภาคเหนือเป็นบางวัน ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะทางด้านฝั่งตะวันออก
ตั้งแต่ใต้จังหวัดชุมพรลงไป นอกจากจะมีอากาศเย็นแล้วยังมีฝนตกทั่วไป แต่ปริมาณฝนจะลดลงกว่าเดือนก่อนมาก
ั
ในบริเวณอ่าวไทยทะเลจะมีคลื่นลมแรงจัดซึ่งเป็นอนตรายแก่การเดินเรือ
สำหรับลมชั้นบนจะเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ และลมจะเป็นตัวแปรสำคัญในการทำให้
อุณหภูมิต่ำมาก โดยมีหลักพิจารณาดังนี้
ุ
1. ต้องเป็นลมทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ถ้ายิ่งเป็นลมทิศเหนือจะทำให้อณหภูมิลดลงมากขึ้น
ื้
เพราะลมมาจากพนดินเป็นส่วนใหญ่
ุ
ิ่
2. ถ้ามีแนวปะทะอากาศประกอบด้วย จะเป็นตัวร่วมในการทำให้อณหภูมิลดลงหรือเพมขึ้นได้อย่าง
รวดเร็วหรือเป็นไปอย่างช้าๆ ถ้าแนวปะทะอากาศแรงจะทำให้อุณหภูมิลดลงได้ช้าเพราะมีแนวปะทะเป็นตัวกั้นไว้
การเคลื่อนที่ของคลื่น (Wave) ความเย็นของมวลอากาศนั้นจะแผ่มาประมาณ 3-5วัน ก็จะหมดระลอก
โดยทั่วไปแล้วช่วงที่แรงที่สุดส่วนใหญ่แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคมจะหนาวมากที่สุด
การสังเกตเส้นความกดอากาศเท่า (Isobaric Serface) ที่มีความกดอากาศ 1020 เฮกโตปลาสคาล ถ้าลงมาต่ำ
ุ
ี
(อาจถึงตอนกลางของประเทศ) เป็นข้อสังเกตได้ว่าอณหภูมิอาจจะลดลงได้มาก และถ้าความกดอากาศมความชัน
(Pressure Gradient) ถี่มากเท่าไรจะเป็นตัวร่วมที่ดี แต่อากาศจะไม่หนาวเย็นลงทันทีทันใด ในวันแรกๆ ที่มีลิ่ม
ความกดอากาศแผ่ลงมาเพราะต้องใช้เวลา 1-2 วันในการไล่อากาศที่ปกคลุมพนที่เดิมออกไปก่อน
ื้
ในเดือนมกราคมและเดือนธันวาคม เป็นเดือนที่สามารถปฏิบัติการทางอากาศได้ดีที่สุดเนื่องจากทัศนวิสัย
ในหมอกหรือหมอกแดดยังไม่ต่ำมากนักไม่เหมือนเดือนอน ๆ
ื่
อนึ่ง ในระหว่างวันที่ 1 – 5 ม.ค.62 ในรอบ 60 ปี พายุโซนร้อน“ปาบึก (PABUK (1901))”ได้ทวีกำลังแรง
ขึ้นจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างในวันที่ 1 ม.ค.62 ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุ
่
ดีเปรสชัน พายุโซนร้อนตามลำดับ เคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันตกเข้าสู่บริเวณอาวไทยตอนล่าง ขึ้นฝั่งบริเวณ
อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 4 ม.ค.62 เมื่อเวลา 1245 ขณะมำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน จากนั้นเคลื่อนผ่าน
่
อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช และ อ.อาวลึก จ.กระบี่ ก่อนออนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันปกคลุมบริเวณ อ.ทับปุด
่
จ.พงงา ในเช้าของวันที่ 5 ม.ค.62 จากนั้นได้ เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลอนดามันพร้อมทั้งออนกำลังลงเป็นหย่อมความกด
่
ั
ั
อากาศต่ำกำลังแรงในช่วงค่ำของวันเดียวกัน

