Page 46 - ทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา

42

้
การกลั่นตัวมักจะเกิดจากการที่อากาศเย็นลง ซึ่งหลังจากเย็นลงแลวอากาศจะเกิดการอิ่มตัว และทำให้เกิด
ั
การกลั่นตวกลายเป็นเมฆ และหมอก
3.3 การระเหิด (Sublimation) น้ำแข็งเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอน้ำโดยไม่ผานการเป็นน้ำมาก่อน โดยน้ำแข็ง
่
รับเอาความร้อนที่อยู่ในบรรยากาศโดยรอบมาทำให้เกิดการระเหยกลายเป็นไอน้ำในที่สด เช่น หิมะกลายเป็นไอน้ำ
ุ
3.4 การระเหิดกลับ (Deposition) ในกรณีที่ไอน้ำเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำแข็งในขณะที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 C
º
โดยไม่ผ่านการเป็นน้ำมาก่อนและปล่อยความร้อนในตัวเองให้กับบรรยากาศโดยรอบ เช่น การเกิดน้ำค้างแข็ง (Frost)

บนพื้นดิน
3.5 การแข็งตัว (FREEZING) น้ำจะแข็งตัวเมื่อมีอุณหภูมิ 0 C หรือต่ำกว่า แต่น้ำก็สามารถทำให้เย็นต่ำกว่า
º
º
0 C ได้โดยที่น้ำนั้นไม่แข็งตัว หยดน้ำเช่นนี้เรียกว่า SUPERCOOLED WATER DROPLETS สภาพ SUPERCOOLED นี้
º
อาจจะพบได้ในอุณหภูมิต่ำลงไปจนถึง -40 C อย่างไรก็ตามในระหว่างขบวนการแข็งตัว อุณหภูมิยังคงอยู่ที่ 0 C และ
º
ี่
ปริมาณความร้อนทสะสมไว้เมื่อตอนขบวนการละลาย 80 แคลอรี่ต่อกรัมนั้นจะถูกคายออกมา
3.6 การละลาย (MELTING) การที่น้ำแข็งกลายเป็นน้ำจำเป็นจะต้องใช้ความร้อน แต่อุณหภูมิของน้ำขณะนั้น
ไม่ได้สูงขึ้นกว่าเดิมทั้งนี้เพราะว่าความร้อนที่ได้มานั้นไปช่วยในการละลายน้ำแข็ง และความร้อนนี้เรียกว่า ความร้อน

แฝงในการละลาย (Latent heat of melting)

ึ
การเปลี่ยนสถานะแบบใดๆ ก็ตามจะต้องมีการแลกเปลี่ยนความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทุกครั้งซึ่งหมายถง
่
พลังงานความร้อนที่กลาวถึงนี้จะนำเข้ามาใช้หรือปล่อยออกไปก็ตาม

ี่
รูปท 5-2 การเปลี่ยนสถานะของน้ำ
4. แกนการกลั่นตัวและการแข็งตว (Condensation and Freezing nuclei)
ั
4.1 แกนการกลั่นตัว (Condensation nuclei) คือสิ่งเจือปนจำพวกอนุภาคผงฝุ่น ควัน ผงเกลือ หรือผลอันเกิด

ั่
ั
ื
ี่
จากการเผาไหม้ทแขวนลอยในอากาศ ทำหน้าที่เป็นแกนการกลนตว ถ้าหากอากาศไม่มีสงอื่นเจอปนเลยการกลนตวจะ
ั่
ิ่
ั
เกิดขึ้นได้จะต้องใช้ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative humidity) ถึง 300% ดังนั้นการที่อากาศมีสิ่งอื่นเจือปนจึงช่วยให้เกิดการ