Page 12 - ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา
P. 12
12
ค่าการสะท้อนของวัตถุที่ถูกกวาดจับ (Scan) มีผลต่อความเข้มในการส่องสว่าง (Brightness) โดยทั่วไปเมฆ
ที่ปรากฏในภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยามีค่าการสะท้อนมากที่สุด ปริมาณการสะท้อนของเมฆขึ้นอยู่กับความสูญเสีย
ของพลังงานรังสีในขณะผ่านบรร ยากาศ (Optical Depth) เมฆที่มีการสูญเสียของพลังงานรังสีในขณะผ่าน
บรรยากาศมากกว่าเป็ นผลท าให้การส่งผ่านพลังงานรังสีในช่วงคลื่น Visible มีปริมาณน้อย ความสูญเสียของ
พลังงานรังสีในขณะผ่านบรรยากาศ (Optical Depth) เพิ่มมากขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับ
ความหนาของชั้นเมฆ
ความหนาแน่นของจ่านวนอนุภาคของเมฆ
ขนาดของอนุภาคที่มีขนาดเล็ก
สัดส่วนของอนุภาคของของเหลวกับผลึกน้่าแข็ง
ข้อจ่ากัดที่ส าคัญของภาพถ่ายดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่น Visible คือ ไม่สามารถที่จะได้ภาพในตอน
กลางคืน ส าหรับภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาช่วงคลื่น Visible น ามาใช้ในการแปลความหมายดังต่อไปนี้
1) แปลความชนิดของเมฆต่างๆ โดยพิจารณาจากรูปร่าง (Shape) และเนื้อของเมฆ (Texture)
ซึ่ง ภาพ Visible ให้ค่าความคมชัดได้ดี
2) แปลความระบบของเมฆ (Cloud System) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมฆในระดับต่ า
3) ประเมินความสูงของเมฆได้โดยอาศัยเงาของเมฆ
4) ประเมินความหนาของเมฆ
5) แปลภาพของเมฆที่มีขนาดเล็กหรือมีรูปทรงที่ผิดปกติ (Anomalous Cloud)
6) หากไม่มีเมฆปกคลุม สามารถแปลความของ พื้นทะเล หรือพื้นที่ถูกปกคลุมด้วยน้่าแข็ง หรือ
หิมะ และ Sun glint
7) อนุภาคที่แขวนลอยในอากาศ เช่น เถ้าภูเขาไฟ, ฝุ่น และควัน

