Page 29 - สถิติอุตุนิยมวิทยา
P. 29
๒๕
กรณีที่ ๓ ในห้วง ๖ ชั่วโมง ที่ทำการตรวจพบการรายงาน SKC และฐานเมฆมีจำนวน
ชั่วโมงเท่ากัน ซึ่งหลักในการพิจารณาแยกเป็นกรณีได้ดังน ี้
้
๑) ถ้าเฉลี่ยจำนวนเมฆแตละชั้นแล้วพบว่า สามารถเฉลี่ยออกมาได
่
จำนวนเมฆ(ตงแต่ ๐.๕ ขึ้นไป) ก็ให้ดำเนินการหาฐานเมฆต่ำสุดและเพดานเมฆเป็นขั้นถัดไป
ั้
่
่
๒) แตถ้าเฉลี่ยจำนวนเมฆแตละชั้นแล้วพบว่า ไม่สามารถเฉลี่ยออกมาเป็น
จำนวนเมฆได (ไม่ถึง ๐.๕) ก็ให้ดำเนินวิธีการเหมือนในกรณีที่ ๒
้
ตารางที่ ๑ ตัวอย่างข่าว
ชนิดข่าว เวลา Col.3 Col.13
SA 2355 FEW300 …1CI300
SA 0055 FEW300 …1CI300
SA 0155 FEW300 …1CI300
SA 0255 SKC …
ชนิดข่าว เวลา Col.3 Col.13
SA 0355 SKC …
SA 0455 SKC …
ตารางที่ ๒ การบันทึก
ต่ำ กลาง สูง ฐานต่ำสุด เพดานเมฆ
- - 1 300 -
สรุป : สามารถเฉลี่ยออกมาได้เป็นจำนวนเมฆ ขั้นต่อไปก็ให้พิจารณาหาฐานต่ำสุด
และเพดานเมฆเป็นลำดับถัดไปผลที่ได้ตามตารางที่ ๒
หมายเหตุ : โดยส่วนมากแล้วถ้า SKC เท่ากับฐานเมฆ เวลาเฉลี่ยหาจำนวนเมฆมักจะได ้
ออกมาเป็นจำนวนเมฆเสมอ
กรณีที่ ๔ ในห้วง ๖ ชั่วโมง ที่ทำการตรวจพบการรายงาน SKC มีจำนวนมากกว่า ฐานเมฆ
ซึ่งในกรณีนี้จะพิจารณาให้เป็น SKC ทั้งเมฆชั้นต่ำ ชั้นกลาง และชั้นสูง ซึ่งรูปแบบการบันทึกจะเหมือน
ในกรณีที่ ๒
กรณีที่ ๕ ในห้วง ๖ ชั่วโมง ที่ทำการตรวจพบการรายงาน SKC ๒ ชั่วโมง พบการรายงาน
ฐานเมฆ ๒ ชั่วโมง และพบการรายงาน VV000 ๒ ชั่วโมง ซึ่งในกรณีนจะไม่นำ VV000 มาพิจารณา
ี้
ก็จะเหลือ SKC ๒ ชั่วโมง และฐานเมฆ ๒ ชั่วโมง ซึ่งวิธีการเหมือนในกรณีที่ ๓

