Page 14 - การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

14

ยังมีกาซเรือนกระจกอื่นๆอีกมากมายที่ถูกปลอยสูบรรยากาศเชน มีเทน, ไนตรัสออกไซด และ CFCs ซึ่งปริมาณของ
กาซตางๆ เหลานี้กําลังเพิ่มขึ้นเชนกัน

รูปที่ 8 แสดงแนวโนมการเพิ่มขึ้นของกาซเรือนกระจก

จากการศึกษาผลกระทบที่เพิ่มขึ้นของกาซ CO ที่มีตอสภาวะโลกรอน คาดวากลางศตวรรษที่ 21 ปริมาณ
2
๐
ของกาซ CO ในบรรยากาศจะเพิ่มขึ้นเปนสองเทาของปจจุบัน อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้น 2-3 ซ. เชื้อเพลิงที่
2
เผาไหมจะเพิ่มปริมาณกาซ CO สูบรรยากาศประมาณรอยละ 40 ของปริมาณกาซ CO ทั้งหมดประมาณ 22,000
2
2
ลานตันที่ถูกปลอยสูบรรยากาศในแตละป ปจจุบันนักวิทยาศาสตรยืนยันวากาซเรือนกระจกเหลานี้ กําลังมีปริมาณ
สูงสุดในรอบ 420,000 ป (จากตัวอยางแกนน้ําแข็งที่เจาะมาจากขั้วโลก)

มีปรากฏการณอีกอยางหนึ่ง แมจะไมเกี่ยวของโดยตรงกับปรากฏการณ Green House Effect แตก็เปนผล

โดยออมในการเพิ่มอุณหภูมิใหกับโลก นั้นก็คือการที่กาซ Ozone (O ) ในชั้นบรรยากาศถูกทําลายลง กาซ O เปนรูป
3
3
หนึ่งของกาซออกซิเจน (O ) ที่กอตัวขึ้นเปนชั้นในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟยรที่อยูในระดับความสูง 10-50 กม.
2
จากพื้นโลก กาซ O นี้มีความจําเปนตอการคงอยูของสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลกและพื้นผิวชั้นบนของมหาสมุทร เนื่องจาก
3
ชวยดูดซับความรอนและชวยใหบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟยรอบอุน แตปจจุบันกาซ O ถูกทําลายลงดวยการปลอย
3
สาร CFCs ออกสูบรรยากาศ ทําใหชั้น O ในบรรยากาศบางลง สาร CFCs มิไดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หากแตถูก
3
ประดิษฐขึ้นโดยมนุษยในป ค.ศ.1930 เพื่อใชเปนสารทําความเย็นในตูเย็นและระบบทําความเย็นอื่นๆ ตลอดจนใชเปน
สารขับดันที่บรรจุอยูในกระปองสเปรย และใชในการผลิตโฟมพลาสติกมากมาย สารนี้มีความคงตัวสูงมาก (ประมาณ

40-150 ป) มันจึงสลายตัวชาที่สุด