Page 15 - การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
P. 15

15


























                                                  รูปที่ 9 แสดงการทําลาย O
                                                                        3

                     เมื่อ CFCs  ถูกปลอยออกสูบรรยากาศ มันจะคอยๆ ลอยขึ้นไปจนถึงบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟยร ณ ที่นั้น
              รังสีอันเขมขนของอุลตราไวโอเลต (UV)  จากดวงอาทิตยจะทําใหเกิดปฏิกิริยาทางเคมี โดยมันจะแตกตัวออกและ

              ปลอยอะตอมของคลอรีน (Cl) ออกมาอะตอมของคลอรีนนี้จะดึงอะตอมของออกซิเจนอะตอมหนึ่งจากโมเลกุลของ

              O เพื่อสรางสารเคมีชนิดใหม เรียกวาคลอรีนมอนนอกไซด (ClO) ทําใหโมเลกุลของกาซ O  ถูกทําลายลง ปฏิกริยา
               3
                                                                                          3
              ทางเคมีนี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ อยางตอเนื่อง ทําใหโมเลกุลของ O  ในบรรยากาศลดลง และทําใหคุณสมบัติในการดูดซับ
                                                                3
              ความรอนจากดวงอาทิตยนอยลง จึงทําใหรังสีดวงอาทิตยสามารถสองผานลงมายังโลกไดมากขึ้น เปนการชวยเสริมให
              โลกรอนขึ้น และที่สําคัญคือสามารถสองผานผิวน้ําทะเลที่ใสลงไปไดลึกมากขึ้น เปนผลทําใหอุณหภูมิน้ําทะเลสูงขึ้น

                        จากโมเดลทางคอมพิวเตอร เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากภาวะโลกรอนหรือภาวะเรือนกระจก ของ

              IPCC โมเดลนี้ชี้วาการที่โลกรอนขึ้นผลที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ
                            1. โลกจะมีความเปยกชื้นมากขึ้นดวยอาจมีฝนตกมากขึ้นราว 10% ในป 2050

                            2. ฝนที่ตกมากขึ้นนี้สวนใหญจะตกในเขตละติจูดกลาง

                            3. พายุหมุนเขตรอนจะทวีความรุนแรงขึ้น และเกิดถี่ขึ้น
                            4.  พื้นที่ทะเลทรายแถบศูนยสูตร ตั้งแตซาฮาราและกาลาฮารีในอาฟริกา รวมทั้งทะเลทรายใน

              ออสเตรเลียตะวันตกและนิวเม็กซิโก จะขยายตัวออกไปจากบริเวณเสนศูนยสูตรมากขึ้น
                            5. ฤดูรอนจะขยายตัวยาวนานขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือของอาฟริกาและตะวันออกกลางจะถูกอบให

              แหงยิ่งขึ้น

                            6.  ขณะเดียวกันก็จะผลักดันระบบภูมิอากาศที่เกิดบริเวณละติจูดต่ําขึ้นไปสูทางขั้วโลกดวย ซึ่ง
              ปรากฏการณดังที่กลาวมานี้หลายอยางดูเหมือนกําลังเกิดขึ้นอยูในขณะนี้แลว
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19