Page 31 - สภาพอากาศในอวกาศ
P. 31
30
ทั้งนี้เพราะอนุภาคแผ่รังสีสามารถที่จะทะลุทะลวงเข้าไปในอากาศยานและมีผลกระทบต่อวงจร
อิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น โปรตรอนพลังงานสูงอาจแทรกเข้าไปในเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์และแยก
อิเล็กตรอนที่อยู่โดยรอบออกจากอะตอม ทำให้อิเล็กทรอนิคที่มีขนาดเล็กมากเกิดการกรอบและแตกหักได้ ซึ่ง
อาจเกิดการรบกวนข้อมูล การเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือแม้กระทั้งทำลายองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
ปรากฏการณ์ดังกล่าวเรียกว่า SEE (Single Event Effect) ความซ้ำซ้อนของระบบและซอฟท์แวร์ที่ติดตั้งบน
อากาศยานมีการขจัดปรากฏการณ์ SEE แม้กระนั้นก็ตามก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
ภัยคุกคามที่เห็นได้ชัดเจนของอนุภาคที่แผ่รังสีเหล่านี้คือภัยที่มีต่อร่างกายมนุษย์ (เช่นลูกเรือและผู้โดยสาร)
อนุภาคที่แผ่รังสีมีผลกระทบต่อการบินเชิงพาณิชย์เช่นเดียวกับการปฏิบัติทางอากาศของทหาร โดยเฉพาะหาก
ทำการบินในระดับสูง ๆ ตัวอย่างเช่นเมื่อปรากฏอนุภาคโปรตรอนพลังงานสูง Federal Aviation
Administration (FAA) จะกำหนดระยะเวลาในการบิน และความสูงของเพดานบินตามเส้นทางบินเชิงพาณิชย์
(commercial air routes) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเหนือหรือใกล้กับแถบขั้วโลก การปฏิบัติทางอากาศของ
ทหารจะได้รับการประกาศแจ้งเตือนรังสีต่างๆ จากหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่เช่นเดียวกัน
การพิจารณาอันตรายที่ผลต่อสุขภาพจากการที่ได้รับพลังงานรังสี ตามปกติจะบ่งบอกเป็น โดส (dose) ซึ่ง
เป็นค่าแสดงผลกระทบจากปริมาณรังสีทั้งหมดที่ร่างกายดูดซับไว้ ตารางเปรียบเทียบค่าโดสซึ่งอธิบายถึงความ
แตกต่างในการตอบสนองของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและเนื้อเยื่อที่มีต่อพลังงานรังสี โดยมีหน่วยเป็น rem
(Roentgent Equivalent in Man) และ millirem (mrem, 1ใน1000 ส่วนของ rem) เพื่อแสดงอันตรายที่
เกิดจากรังสี รูปที่ 36 แสดงแผนที่ของค่าการแผ่รังสีสำหรับลูกเรือที่ทำการบินที่ระดับความสูง 67,000 ฟุต
ิ่
ึ้
รอบโลก ค่าโดสเริ่มตั้งแต่ 0.35 ถึง 1.608 mrem ต่อชั่วโมง โดยทั่วไปเพมขนตามละติจูดซึ่งจะมีค่าสูงสุดแถบ
ขั้วโลก โดยมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าประมาณ 5 เท่าตามแนวแม่เหล็กแถบศูนย์สูตร
รูปที่ 36 แสดงโดสของรังสีบริเวณเส้นทางบินในระดับสูง

