Page 37 - ทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา
P. 37
33
6. สุดท้ายความหนาแน่นของอากาศที่ลอยขึ้นมาเท่ากับความหนาแน่นของอากาศที่อยู่โดยรอบอากาศ
นั้นจะหยุดการลอยตัวขึ้น อากาศที่ลอยขึ้นมาเข้าแทนที่อากาศเดิมที่อยู่ในระดับความสูงเดียวกันเป็นเหตุให้อากาศแผ ่
ออกไปด้านข้าง
7. อากาศเย็นและมีความหนาแน่นกว่าถูกผลักออกไปจากคอลัมน์ของอากาศไหลขึ้นเริ่มจมตัวลง
8. อากาศเย็นและมีความหนาแน่นจมตัวลงผ่านอากาศที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าอย่างต่อเนื่อง จนใน
ที่สุดจมตัวลงสู่พื้นผิวโลกและไหลไปในแนวระนาบสู่บริเวณที่อุ่นกว่า
จากขั้นตอนการแลกเปลี่ยนความร้อนโดยการพานำมาอธิบายการเกิดระบบหมุนเวียนขนาดใหญ่
(Convection Cell หรือ Giant Cell) ได้ดังนี้
ในกรณีที่โลกไม่มีการหมุนบริเวณศูนย์สูตรจะ
ั
ร้อนกว่าบริเวณขั้วโลก อากาศร้อนแถบศูนย์สตรลอยตว
ู
สูงขึ้นแล้วเย็นลง ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นจนเท่ากับ
อากาศเย็นที่อยู่ระดับบนจึงหยุดการการลอยตัวขึ้น
พร้อมกับเข้าแทนที่และผลักให้อากาศเย็นและมีความ
ั
หนาแน่นเดิมนั้นลอยออกไปด้านข้างและจมตวลงอย่าง
ต่อเนื่องจนกระทั้งลงสู่พื้นโลกบริเวณขั้วโลกและไหลลง
มาสู่บริเวณศูนย์สูตร จากลักษณะการเคลื่อนที่ของ
ั
อากาศดงกล่าวจึงก่อให้เกิดระบบการหมุนเวียนขนาด
ใหญ่ขึ้น
หากพิจารณาระบบความกดอากาศที่เกิดขึ้นจะพบว่า รูปที่ 4-4 ระบบการหมุนเวียนขนาดใหญ่
บริเวณพื้นผิวโลกแถบศูนย์สูตรจะปรากฏเป็นความกดอากาศต่ำ เพราะอากาศร้อนทำให้ปริมาตรของอากาศเพิมขึ้น
่
ความหนาแน่นลดลง ความกดจึงลดลง ขณะที่ระดับบนเหนือแถบศูนย์สูตรอากาศที่ลอยขึ้นสมทบกับอากาศเย็นใน
ระดับบนทำให้มีมวลเพิ่มขึ้นจึงเกิดเป็นความกดอากาศสูงในระดับบน
่
ส่วนบริเวณขั้วโลกนั้นเมื่ออากาศเย็นและมีความหนาแน่นเคลื่อนที่ออกไปด้านข้างและจมตัวลงอย่างตอเนื่อง
จนในที่สุดจมลงสู่ผิวพื้นบริเวณขั้วโลกในระดับบนจะเป็นความกดอากาศต่ำ ทั้งนี้เพราะมวลของอากาศเย็นจมตวลง
ั
เบื้องลงจึงทำให้น้ำหนักของอากาศหรือความกดอากาศระดับบนลดลง ขณะที่บริเวณผิวพื้นแถบขั้วโลกได้รับมวลของ
อากาศที่จมตัวลงมาจึงทำให้ความกดเพิ่มขึ้นและเป็นความกดอากาศสูงที่ผิวพื้น
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงโลกมีการหมุนรอบแกน ดังนั้นระบบหมุนเวียนขนาดใหญ่จึงแตกออกเป็น 3
เซลล์ หรือเรียกว่าทฤษฎี 3 เซลล์

