Page 7 - ทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา

3

นอกจากนี้แล้วในบรรยากาศชั้นนี้ยังมีชั้นไอโอโนสเฟียร์ (Ionosphere) ซึ่งเป็นชั้นบรรยากาศท ี่

บางมาก และเป็นชั้นบรรยากาศที่เป็นสื่อไฟฟ้า แบ่งตามคุณสมบัติของการสะท้อนคลื่นวิทยุได้ดังนี้
5
- ชั้นอากาศ D (D Layer) เป็นชั้นบรรยากาศที่สะท้อนคลื่นวิทยุช่วงคลื่นยาว(10 - 10 Metres) กลับมา
3
ยังพื้นโลกมีระดับความสูงประมาณ 64-97 กม. หรือ 40-60 ไมล์ เหนือพื้นโลก

2
3
- ชั้นอากาศ E (E Layer) เป็นชั้นบรรยากาศที่สะท้อนคลื่นวิทยุช่วงคลื่นกลาง (10 - 10 Metres) มี
ระดับสูงประมาณ 110 กม. หรือ 70-90
ไมล์ เหนือพื้นโลก
- ชั้นอากาศ F (F Layer) เป็นชน
ั้
บรรยากาศที่สะท้อนคลื่นวิทยุช่วงคลื่นสน
ั้
2
(0.5 - 10 Metres) ในชั้นนี้แบ่งได้เป็น 2
ระดับคือ F 1 สูงประมาณ 150-240 กม. หรือ

90-150 ไมล์ และ F สูงประมาณ 300 กม.
2
หรือ 190 ไมล รูปที่ 1-3 Ionosphere
์
บรรยากาศที่อยู่เหนือชั้นเทอร์โมสเฟียร์ขึ้นไป เรียกว่า ชั้นเอ็กโสสเฟียร์ (Exsosphere) มีความสูงตั้งแต ่

500 กม. ขึ้นไปถึงส่วนบนสุดของบรรยากาศซึ่งมีขอบเขตทไม่แน่นอน ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแก๊ส นานาชนิด เป็น
ี่
ชั้นที่ไม่มีผลทางอุตุนิยมวิทยา

4. ประโยชน์ของบรรยากาศ

4.1 มีส่วนผสมของแก๊สออกซิเจน และไนโตรเจน ที่พอดีพอเหมาะที่ทำให้สิ่งมีชีวิต และพืชดำรงชีวิตอยู่ได
้
บนพื้นโลก

4.2 ในบรรยากาศสูงประมาณ 25-30 กม. เหนือพื้นโลกมีแก๊สโอโซนอยู่มากซึ่งทำหน้าที่กรองรังสจาก
ี
ดวงอาทิตย์ ในแถบคลื่นรังสีอุลตร้าไวโอเลต (Solar ultra-violet radiation) ถ้าร่างกายมนุษย์รับรังสีชนิดนี้ไว้เป็น

จำนวนมากแล้ว อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น อาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง (Skin cancer) ได ้

4.3 บรรยากาศทำหน้าที่คล้ายเรือนกระจก (Green house) โดยเก็บกักความร้อนไว้ในเวลากลางวัน ใน
เวลากลางคืนก็เก็บกักความร้อนอันเนื่องจากการแผ่รังสีออกของโลก โดยไม่ปล่อยให้พื้นดินแผ่รังสีออกไปมาก และ

รวดเร็ว
4.4 บรรยากาศทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันไม่ให้สะเก็ดดาวหรือ อุกาบาต (Meteors) วิ่งเข้ามาชนโลก

4.5 บรรยากาศทำหน้าที่เป็นสื่อทำให้เกิดเป็นคลื่นของเสียงที่เราได้ยิน ถ้าปราศจากบรรยากาศแล้วจะไม่มี

ี
เสียง นอกจากนั้นจะไม่มีไฟ เพราะไฟจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีออกซิเจน และจะไม่มีลม ไม่มีเมฆ ไม่มีฝน ไม่มีสงมีชวิต
ิ่
และพืชพันธุ์