Page 48 - เครื่องมือตรวจอากาศและการจัดดำเนินงานสถานีตรวจอากาศ
P. 48
44
ิ
ส่วนมากบารอมิเตอร์อเลคทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบในปัจจุบันใช้เครื่องแปลงความถี่หรือกระแส
(Transducer) ซึ่งแปลงค่าตอบสนองของตัววัด (sensor) ต่อความกดอากาศมาเป็นค่าเชิงปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ
้
ค่าความกดอากาศแล้วผ่านระบบวงจรไฟฟ้ารวมหรือระบบรวบรวมขอมูลและขั้นตอนการปรับข้อมูลที่เหมาะสม
เพอให้ได้ค่าความกดอากาศในการใช้บารอมิเตอร์ในการตรวจอากาศนั้น ค่าคงที่ทางเวลา (time constant) มี
ื่
ค่า ๑๐ วินาที (ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่า ๒๐ วินาที) ทั้งนี้ค่าคงที่ทางเวลานั้นโดยทั่วไปแล้วไม่มีความส าคัญอะไรกับ
บารอมิเตอร์แบบปรอท
ประเภทของเครื่องวัดความกดอากาศ
แบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท ดังนี้
๑. บาโรมิเตอร์แบบแอนเนอรอยด์ หรือบาโรมิเตอร์ที่อาศัยหลักการยืดหยุ่น (ANEROID OR ELASTIC
BAROMETERS)
๒. บาโรมิเตอร์แบบปรอท (MERCURY BAROMETER)
๓. บาโรมิเตอร์แบบฮิบโซมิเตอร์ (HYPSOMETER)
ื่
ในทางอตุนิยมวิทยาจะใช้แบบที่ ๒ เป็นมาตรฐาน เพราะจะได้ผลที่แน่นอนกว่าวิธีอน ๆ และแบบที่ ๑
ุ
จะรองลงมา ส่วนแบบที่ ๓ นั้น จะใช้หลักความสัมพันธ์ระหว่างจุดเดือดของวัตถุเหลวกับความกดของบรรยากาศ
นับว่าเป็นความยุ่งยากจึงไม่นิยมใช้
๑. บาโรมิเตอร์แบบแอนเนอรอยด์ (Aneroid barometers)
บาโรมิเตอร์แบบแอนเนอรอยด์ เป็นบาโรมิเตอร์ที่ไม่ใช่วัตถุไหล (ปรอท) จึงเคลื่อนย้าย ไปมาได้
สะดวก เหมาะส าหรับใช้ในเรือหรือน าติดตัวไปใช้ในที่ต่าง ๆ แต่ความถูกต้องแม่นย านั้น แบบแอนเนอลอยด์ย่อม
ใช้ได้หยาบกว่าบาโรมิเตอร์แบบปรอท
หลักการสร้าง ใช้แผ่นโลหะบาง ๆ (metal diaphragms) หนาประมาณ ๐.๐๐๕ นิ้ว ท าเป็นตลับ
ู
๑
ู
ลูกฟกสองกันประกบกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ / นิ้ว และความหนาของตลับลูกฟกประมาณ / นิ้ว
๑
๔
๒
(เปลี่ยนแปลงได้ตามแต่บริษัทผู้สร้าง) ด้านบนและด้านล่างท าเป็นลูกฟก บัดกรีขอบให้สนิทแล้วสูบอากาศออก
ู
ให้ภายในเป็นสุญญากาศ อากาศรั่วไม่ได้ มีแหนบแข็ง (CONTROL SPRING) ยึดด้านบนและด้านล่างของตลับ
ไว้ เพื่อดึงให้ตลับโป่งออกอยู่เสมอ

