Page 50 - เครื่องมือตรวจอากาศและการจัดดำเนินงานสถานีตรวจอากาศ
P. 50
46
๒. ใช้วิธีเหลืออากาศไว้ในตลับบ้างเล็กน้อย วิธีนี้นิยมกันแพร่หลายทั่วไป โดยที่
ุ
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอณหภูมิ คือเมื่ออณหภูมิสูงขึ้นจะท าให้ความกดอากาศในตลับสูงขึ้นด้วย ท าให้ตลับ
ุ
ลูกฟกมีความพยายามในอนที่จะโป่งออก แต่โดยที่เราเหลืออากาศไว้จ านวนเล็กน้อยในตลับ ความพยายามใน
ั
ู
ั
อนที่จะโป่งออกจึงหมดไปโดยการขยายตัวของความร้อน (Thermal expansions) ภายในตลับนั้นเอง จึงท าให้
ั
ุ
เกิดความพยายามในอนที่จะแฟบเข้า อาการทั้งสองอย่างนี้เท่ากันพอดีในช่วงของอณหภูมิหนึ่ง จึงเป็นการ
ชดเชยกันไปในตัว เครื่องแอนเนอลอยด์ที่ท าแบบนี้เขาจะเขียนเครื่องหมายไว้ที่เครื่องว่า (Compensated
aneroid)
ู
บาร์โรมิเตอร์แบบแอนเนอรอยด์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มีท าตลับลูกฟกเพยงตลับเดียว ความ
ี
ถูกต้องแน่นอนจึงมีไม่มากนัก ดังนั้น จึงได้คิดสร้างแบบที่มีความถูกต้องแม่นย าดียิ่งขึ้น เรียกว่าเครื่องแบบ
ู
ั
Precision aneroid โดยท าเป็นตลับลูกฟกหลาย ๆ อนซ้อนกันและท าเป็นหลายชุด (อาจมีสองถึงสี่ชุด) ซึ่งใช้
ั
อาการยืดหยุ่นอย่างเดียวกัน แต่มีระยะขยายมากกว่า ส่งอาการมารวมที่เข็มชี้ อนเดียวกัน ไปชี้แสดงค่า
่
ี
ความกดอากาศที่หน้าปัด เครื่องแบบนี้มีความระเอยดถูกต้องดีมาก ค่าของความกดอากาศที่อานได้ละเอยดถึง
ี
๑/๑๐๐๐ นิ้ว หรือ ๐.๑ มิลลิบาร์
๒. บาร์โรมิเตอร์แบบปรอท (Mercury barometer)
บาโรมิเตอร์แบบปรอท (Mercury barometer) แบ่งออกได้เป็น ๒ ชนิด
๒.๑ แบบฟอร์ติน (FORTIN) คือ ที่เหนือระดับปรอท (ตรงกระปุก) จะมีเข็มงาช้าง (IVORY
POINT) เพื่อไว้ส าหรับแต่งระดับปรอทให้สัมผัสกับเข็มงาช้าง ก่อนที่จะอ่านค่าของความกดอากาศ

