Page 8 - การตรวจอากาศด้วยเรดาร์
P. 8
๔
ลักษณะเป้าหรือภาพสะท้อนที่เป็นพายุฟ้าคะนองในเรดาร์
้
้
เป้าพายุฟาคะนองเกิดจากเมฆคิวมูโลนิมบัส ปกติมักมีปรากฏการณ์ทางอตุนิยมวิทยา เช่น ฟาแลบ
ุ
ฟ้าร้อง กระแสอากาศปั่นป่วน ลมกระโชก และลูกเห็บเกิดขึ้นด้วย ลักษณะที่ตรวจพบในเรดาร์ ดังนี้
ลักษณะของเป้ามีขอบเขตชัดเจน ขอบที่ยื่นออกมามีลักษณะคล้ายนิ้วมือ รูปตะขอเป็นแถบ
้
หรือแนวยาว โค้ง และคล้ายลูกคลื่นในทะเล พายุฟาคะนองขนาดใหญ่มักประกอบด้วยเซลล์เล็กๆ อยู่ภายใน
เคลื่อนตัวด้วย ความเร็ว ไม่เกิน ๔๐ นอต บางครั้งเคลื่อนเข้าหากัน และรวมเป็นเซลล์พายุฟาคะนองขนาดใหญ่
้
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งความแรงและพนที่ อัตราการก่อตัวทางตั้ง ๖๐๐ เมตรต่อนาที หรือมากกว่านั้น
ื้
ยอดสูงสุด ตั้งแต่ ๘ กิโลเมตร ขึ้นไปจนเกือบถึงระดับทรอบโปพอส พายุฟาคะนองรุนแรงยอดสูงสุดอยู่ระหว่าง
้
๑๒–๑๕ กิโลเมตร ถ้าพายุ รุนแรงมากจะมียอดสูงกว่า ๑๕ กิโลเมตรขึ้นไป
้
ช่วงเวลาหรือความนานของเป้าพายุฟาคะนองนั้นแตกต่างกัน เป้าพายุฟาคะนองมีความนานตั้งแต่
้
๒๐ นาที จนถึง ๑๐ ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของขนาด สภาพอากาศแวดล้อม และบริเวณทเกิดพายุปริมาณ
ี่
ฝน ของพายุฟาคะนองมีขนาดตั้งแต่ ๑๐ มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นไปและขึ้นอยู่กับขนาด ความสูง ปริมาณ ไอน้ำ
้
ในอากาศ และการก่อตัวของพายุนั้น
เรดาร์ตรวจอากาศในปัจจุบัน
กองทัพอากาศ โดย กองข่าวอากาศ คปอ. ซึ่งเป็นต้นสายวิชาการอตุนิยมวิทยา และมีหน่วยปฏิบัติงาน
ุ
ด้านข่าวอากาศระดับฝ่าย ประจำอยู่ทุกกองบิน มีหน่วยข่าวอากาศบางหน่วยที่ได้รับการติดตั้ง และใช้งานเรดาร์
ตรวจ อากาศ เพื่อสนับสนุนกิจการการบินในพื้นที่นั้นๆ ปัจจุบัน ติดตั้งอยู่ ๖ หน่วย ดังนี้
• ฝ่ายข่าวอากาศ กองบิน ๑ (๑ ก.ย. ๕๔)
• ฝ่ายข่าวอากาศ กองบิน ๔ (๒๐ พ.ค. ๖๕)
• ฝ่ายข่าวอากาศ กองบิน ๗ (๒๒ มิ.ย. ๖๓)
• ฝ่ายข่าวอากาศ กองบิน ๒๑ (๒๘ ก.ย. ๕๘)
• หมวดข่าวอากาศ โรงเรียนการบิน กำแพงแสน (๒๓ ก.ย. ๕๑)
• ฝ่ายข่าวอากาศ กองบิน ๒๓ (๑๘ ก.ค. ๕๕)
เรดาร์ตรวจอากาศในประเทศไทยมีใช้งานอยู่ในหลายหน่วยงาน เช่น หน่วยงานของกรมอตุนิยมวิทยา หน่วยงาน
ุ
ของฝนหลวง สำนักระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร และของกองทัพอากาศ ซึ่งจะการติดตั้งใช้งานการตรวจอากาศ
ด้วยเรดาร์ สนับสนุนภารกิจของหน่วยตนเองเป็นหลัก และอาจจะมีบางหน่วยใช้งานสนับสนุนงานที่มีความ
แตกต่างกัน โดยเฉพาะการใช้ค่าย่านความถี่ที่แตกต่างกันดังนั้นประสิทธิภาพของของเรดาร์นั้น ก็จะแตกต่างตาม
ความต้องการใช้งานที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันที่มีใช้งานอยู่โดยทั่วไปนั้นส่วนใหญ่มีอยู่ ๓ Band คือ
๑. เรดาร ย่านความถี่ X - Band
๒. เรดาร์ ย่านความถี่ C - Band
๓. เรดาร์ ย่านความถี่ S - Band

