Page 1 - การตรวจลมชั้นบน
P. 1
1
บทที่ 1
การตรวจลมชั้นบน
(PILOT BALLOON OBSERVATION : PIBAL)
เนื่องจากการตรวจอากาศผิวพื้นนั้น ยังไม่เป็นการเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ข่าวอากาศ เพื่อให้
์
์
่
้
ไดศกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับปรากฏการณตางๆ ในบรรยากาศ และทาให้การพยากรณอากาศนั้นมีความแม่น
ึ
ึ
ย ามากขึ้น จงตองมีการตรวจลมชนบนวันละ 2 ครั้ง คอเวลา 0000UTC และเวลา 1200UTC หรือทกๆ 12
ั้
ื
้
ุ
ั้
ั่
่
ชวโมง แตเพื่อจะให้การตรวจอากาศละเอียดยิ่งขึ้นในหนึ่งวัน อาจจะตรวจลมชนบนเป็น 4 ครั้ง โดยทาการ
ี่
เพิ่มในเวลามาตรฐานเมืองกรีนิชอีกด้วย ในประเทศไทยเรามีสถานีตรวจอากาศเป็นบางสถานีเทานั้นทจะท า
่
การตรวจลมชนบน โดยการรายงานออกมาเป็นความกดอากาศ, อุณหภูมิ และความชนของบรรยากาศใน
ั้
ื้
ี่
ระดับสูงมากที่สุดเท่าทเครื่องมือจะสามารถรายงานได้ การรายงานข่าวอากาศดังกล่าวจะช่วยให้การพยากรณ ์
อากาศมีความแม่นย ามากยิ่งขึ้น ในระหว่างสงครามโลกครั้งท 1 ถึงเมื่อต้นปี ค.ศ.1930 ได้มีการสร้างว่าวพิเศษ
ี่
่
้
ึ
้
ั
ิ
ขึ้นโดยไดมีการตดเครื่องมือตรวจอากาศขึ้นไปดวย ซึ่งเครื่องมือดงกลาวจะบันทก ความกดอากาศ, อุณหภูมิ
ื้
ั้
และความชนของอากาศไว้ ซึ่งเป็นรากฐานของการตรวจอากาศชนบน อย่างไรก็ตามในราวกลางปี ค.ศ.1930
ได้มีการใช้เครื่องบินแทนว่าว โดยติดตั้งเครื่องมือบันทึกผลของการตรวจอากาศไว้บนเครื่องบิน และผลของการ
ู้
ตรวจอากาศนี้จะถึงมือผใชเมื่อเครื่องบินลงสนามแลว การบินตรวจอากาศแบบนี้เรียกว่า APOBS (Airplane
้
้
ั้
ั่
Observation) จนกระทงทกวันนี้ APOBS ก็ยังเป็นประโยชน์อยู่มาก ในการตรวจอากาศชนบนไม่สามารถท า
ุ
ี่
ั
ุ่
ี่
้
การตรวจในขณะทมีพายุหมุนเขตร้อน (ไตฝน) หรือลกษณะอากาศทรุนแรงอื่นๆ ทบัลลนไม่สามารถจะทะล ุ
ี่
ู
้
ิ
่
่
ผานขึ้นไปได เนื่องจากข้อมูลข่าวอากาศตางๆ ทไดมานั้น เจาหน้าททปฏิบัตงานด้านอุตุนิยมวิทยาเทานั้นเป็น
้
่
้
ี่
ี่
ี่
่
ผเกี่ยวข้องโดยตรง จงไม่จาเป็นสาหรับนักบินทจะตองทราบรายละเอียด แตถ้านักบินตองการทราบ
ู้
้
ี่
ึ
้
ี่
รายละเอียดให้ติดต่อได้ทสถานีตรวจอากาศนั้นๆ เพื่อใช้ในการบินทุกครั้ง การตรวจอากาศชั้นบนท าการตรวจ
ั้
้
เพื่อให้ไดคาทศทางและความเร็วลมเหนือสถานีตรวจอากาศนั้น โดยมีชนิดของการตรวจลมชนบน และตรวจ
่
ิ
อากาศชั้นบน (WIND ALOFT OBSERVATION AND UPPER AIR OBSERVATION) ซึ่งแบ่งตามวิธีการดังนี้
1. การใช้วิทยุหยั่งอากาศ (RADIO SOUNDING OBSERVATION : RAOB)
2. การตรวจลมชั้นบนด้วยเครื่องเรดาร์ (RADAR WIND OBSERVATION : RAWIN)
ั้
3. การใชวิทยุหยั่งอากาศและเรดาร์ตรวจลมชนบน (RADIO AND WIND SOUNDING :
้
RAWINSONDE)
4. การตรวจลมชั้นบน (PILOT BALLOON OBSERVATION : PIBAL)
1. การใช้วทยุหยั่งอากาศ (RADIO SOUNDING OBSERVATION : RAOB) เป็นการตรวจอากาศ
ิ
ี
้
ชนบนโดยใชบัลลนซึ่งภายในบรรจแก๊สไฮโดรเจนหรือฮีเลยม ซึ่งจะไดคาความกดอากาศเป็นเฮกโตปาสคาล,
ั้
ู
ุ
้
่
ึ้
อุณหภูมิเป็นองศาเซลเซียส, ความชื้นเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมีกล่องเครื่องมือซึ่งเป็นเครื่องส่ง วิทยุส่งติดตามไปขน
ิ
ั
่
้
ื่
ไปดวย และจะสงสญญาณคลนวิทยุรายงานสารประกอบต่างๆ ลงมายังสถานีภาคพื้นดนซึ่งจะแปลงสญญาณ
ั
่
่
ู
ี
ั
คาวิทยุออกมาเป็นคาอุณหภูมิ, ความกดอากาศ และความชนในระดบนั้นๆ และมีร่มชชพเลกๆ ไว้สาหรับกาง
็
ื้
เพื่อชะลอความเร็วของกลองเครื่องมือภายหลงลกบัลลนแตก เพื่อป้องกันอันตรายทจะเกิดขึ้นตอชวิต และ
่
ี
ี่
ั
่
ู
ู
ิ
่
้
ทรัพย์สนเมื่อบัลลนตกลงสพื้นดน การใชวิทยุหยั่งอากาศนั้นจะไม่มีคาทศทางและความเร็วลม จะไดเฉพาะ
้
ู่
ู
ิ
ิ
อุณหภูมิ, ความกดอากาศ และความชนเทานั้น ถ้าการตดตามการเคลอนทดวยกลอง THEODOLITE
้
่
ี่
ิ
ื่
ื้
้
้
่
ี
เชนเดยวกับการตรวจแบบ PIBAL จะเรียกการตรวจชนิดนี้ว่า “RABAL” แตจะมีความถูกตองมากกว่าการ
่
ตรวจ PIBAL เพราะเครื่องส่งวิทยุที่ผูกติดไปกับบัลลูนจะรายงานข้อมูลที่จะน ามาค านวณหาต าแหน่งของบัลลน
ู
ให้ทราบทุกๆ 1 นาทีของการตรวจ

