Page 12 - ภูมิอากาศ
P. 12
12
ื้
ถ้ามวลอากาศเคลื่อนไปปกคลุมพนผิวที่เย็นกว่ามวลอากาศนั้น พลังงานความร้อนจะถ่ายเทจาก
ื้
อากาศลงมาสู่พื้นดิน มวลอากาศใกล้ๆ กับผิวพนถูกทำให้เย็นลง ดังนั้นมวลอากาศในระดับต่ำๆ จึงมีคุณสมบัติหนาแน่น
มากกว่าอากาศเบื้องบน เป็นการลดการลอยตัวขึ้นของอากาศ ในขณะเดียวกันอากาศจะมีการจมตัวลงมาด้วย เป็นการ
ทำให้มวลอากาศทรงตัวดีขึ้น (Stable) เมื่ออากาศจมตัวลงแล้วยังแผ่กระจายออกทางด้านข้างด้วยเป็นผลจากน้ำหนัก
ของอากาศนั้น (Subsidence) ดังตัวอย่างที่กลับกันกับการต้มน้ำ รูปที่ 6 เอาภาชนะที่ใส่น้ำที่เดือดมาวางลงบน
ก้อนน้ำแขง ขณะที่น้ำถูกทำให้เย็นลงจากเบื้องล่างมันจะหยุดเดือด (การไหลขึ้น) และเริ่มมีการทรงตัวดีขึ้น ดังรูป
็
ี่
ื้
ื้
การทำให้เย็นลงจากข้างล่างนี้มีผลทำให้อากาศที่อยู่ติดกับผิวพนเย็นลง ในที่สุดอากาศทอยู่ใกล้ผิวพนโลกอาจเย็นลง
ต่ำกว่าจุดน้ำค้าง กรณีเช่นนี้จะเกิดเป็นหมอกหรืออาจเกิดฝนละอองได้ อากาศที่อยู่เหนือชั้นอณหภูมิกลับ (Inversion
ุ
ี
temperature) ส่วนใหญ่จะไม่มผลกระทบเพียงแต่จะเย็นลงอย่างช้าๆ ด้วยการแผ่รังสีออกเท่านั้น
รูป 6 การร้อนขึ้นจากเบื้องล่าง และการเย็นตัวลงจากเบื้องล่าง
สรุป มวลอากาศแบบนี้ร้อนกว่าผิวพนด้านล่าง เรียกว่า Warm air mass (w)
ื้
- อากาศจะถูกทำให้เย็นลงจากเบื้องล่าง
- อากาศเรียบเหนือระดับแรงเสียดทาน
- มีการทรงตัวดีในระดับต่ำ
- ลักษณะอากาศ มีเมฆแผ่น หมอกและฝนละออง
ุ
่
- ทัศนวิสัย เลว โดยเฉพาะย่านอตสาหกรรม และเขตชุมชน เนื่องจากเขมาควันในระดับต่ำกว่า 1,000
ฟุต ลงมา
5.2 ความชื้น (Moisture)
การเปลี่ยนแปลงจำนวนและอตราความชื้นขึ้นอยู่กับความแตกต่างของอณหภูมิของมวลอากาศและ
ุ
ั
ื้
อุณหภูมิของผิวพนที่รองรับ
5.2.1 การเพิ่มความชื้น การเพิ่มความชื้นให้กับมวลอากาศในระดับต่ำๆ นี้ได้มาจาก
5.2.1.1 การระเหยจากผิวพนต่างๆ เช่น มหาสมุทรซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของความชื้นที่สำคัญที่สุด,
ื้
ทะเลสาบ, พื้นดินที่ชื้นแฉะหรือถูกปกคลุมด้วย หิมะและน้ำแข็ง

