Page 17 - ภูมิอากาศ
P. 17
17
บทที่ 2
ภูมิอากาศประเทศไทย
1. บทนำ
ื่
นักภูมิอากาศวิทยาได้ให้ความสนใจและพยายามที่จะศึกษาค้นคว้าคิดหาเหตุผล เพออธิบายเกี่ยวกับ
สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์โดยตรง อากาศนับว่าเป็นสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มนุษย์
ให้ความสนใจมาก และมีศาสตร์ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับอากาศหลายสาขา เช่นภูมิอากาศวิทยา (Climatology)
อตุนิยมวิทยา (Meteorology) เป็นต้น สำหรับคำที่น่าสนใจเกี่ยวกับอากาศคือ กาลอากาศ (Weather) และ
ุ
ภูมิอากาศ (Climate) ซึ่งพอจะแยกให้เห็นความหมายของคำทั้งสองได้ดังนี้
กาลอากาศ หรือ สภาพอากาศ (Weather) เป็นลักษณะอากาศที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ใน
ท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง ที่ได้ทำการตรวจบันทึกไว้ในบริเวณนั้น ๆ และเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ
ภูมิอากาศ (Climate) เป็นสภาพของอากาศที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ติดต่อกันเป็นเวลานาน และมีการ
ตรวจสอบอยู่เสมอ ข้อมูลที่เกี่ยวกับภูมิอากาศจะได้จากคาเฉลี่ยติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ
่
2. ปัจจัยที่ควบคุมภูมิอากาศ (The factors that control climate)
ลมฟ้าอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปได้ เนื่องจากปัจจัยที่สำคัญหลายประการคือ
2.1 ละติจูด (Latitude)
ี
โลกมีลักษณะกลมค่อนข้างรีมีผิวโค้ง แกนเอยงจากแนวดิ่ง 23 1/2 องศา ทำให้บริเวณต่างๆ บน
ื้
ุ
พนโลกได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน เช่น บางแห่งมีอณหภูมิสูงตลอดปี ได้แก่ บริเวณเขตศูนย์สูตร บางแห่งจะมี
่
น้ำแข็งปกคลุมตลอดปี ได้แก บริเวณขั้วโลกเหนือ-ใต้
2.2 กระแสน้ำในมหาสมุทร (Ocean current)
ุ่
ุ
ิ
ในบริเวณละติจูดเดียวกัน อณหภูมิจะแตกต่างกัน เนื่องจากอทธิพลความอน-เย็นของกระแสน้ำ
เช่น ประเทศญี่ปุ่นด้านตะวันออกมีกระแสน้ำอนอโรชิโวไหลผ่าน ทำให้อากาศอบอนกว่าประเทศเกาหลีและจีน
ุ
ุ่
ุ่
ี
บริเวณออสเตรเลียตะวันตกและตะวันออกมอุณหภูมิต่างกันเพราะอิทธิพลของกระแสน้ำ
2.3 ความกดอากาศสูง-ต่ำกึ่งถาวรที่มีอยู่ในที่ต่างๆ (Semi-permanent High and Low Pressure)
บริเวณความกดอากาศสูงในไซบีเรีย และแคนนาดา ความกดอากาศต่ำในเกาะอลิวเซียน
ทำให้ความกดอากาศที่แตกต่างกันนี้มีมาก ย่อมก่อให้เกิดความปรวนแปรของอากาศ เช่นมีฝนตกและพายุจัด
อุณหภูมิของอากาศย่อมจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย
2.4 ความแตกต่างระหว่างพื้นดินและพื้นน้ำ (Land and Water bodies)
บริเวณพื้นน้ำจะร้อนช้ากว่าบริเวณพื้นดิน ทำให้เกิดความแตกต่างกันของอุณหภูมิ
2.5 ความสูงต่ำของพื้นดิน (Altitude)
ุ
ุ
ในบริเวณเดียวกันจะมีระดับอณหภูมิต่างกัน แม้จะได้รับแสงของดวงอาทิตย์เท่ากันอณหภูมิจะ
ไม่เท่ากันเพราะยิ่งสูงมวลอากาศยิ่งเบาบาง อากาศขยายตัวได้มาก โมเลกุลไม่เบียดเสียดกัน ความร้อนย่อมน้อยลง
2.6 การขวางกั้นของภูเขา (Mountain Barrier)
ั
เขตที่อยู่ด้านหน้าของภูเขามีลมที่พดผ่านจะมีฝนตกชุกกว่าด้านที่ไม่มีลมพดผ่าน ด้านที่รับลม
ั
ั
เรียกว่า Windward ส่วนการที่ไม่มีลมพดผ่านจะทำให้ฝนตกน้อยเรียกว่าเขตกำบังฝน (Rain shadow)

