Page 13 - ภูมิอากาศ
P. 13
13
5.2.1.2 เมื่ออากาศเสียการทรงตัว (Decrease stability) ทำให้อากาศมีความหนาแน่นน้อยลง อากาศ
ชื้นจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าและเบากว่าอากาศแห้ง
5.2.2 การลดปริมาณความชื้น
การลดจำนวนความชื้นออกจากมวลอากาศในระดับต่ำๆ ได้มาโดย
5.2.2.1 การกลั่นตัวและการเกิดน้ำฟ้า
5.2.2.2 เมื่ออากาศมีการทรงตัวดีขึ้น (Increase stability) ทำให้อากาศมีความหนาแน่น มากขึ้น
และมีความชื้นน้อยลง
5.2.3 ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของมวลอากาศ
5.2.3.1 การที่มวลอากาศจากทวีปเคลื่อนไปปกคลุมเหนือน่านน้ำจะใช้เวลาประมาณ 48 ชม. ในการ
เปลี่ยนคุณสมบัติเป็นมวลอากาศฝ่ายมหาสมุทร
ื้
5.2.3.2 การที่มวลอากาศฝ่ายมหาสมุทรเคลื่อนไปปกคลุมบนพนทวีป จะใช้เวลาในการเปลี่ยน
คุณสมบัติ เป็นมวลอากาศฝ่ายทวีป ประมาณ 5 - 7 วัน
5.3 ลักษณะภูมิประเทศ (Topography)
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของภูมิประเทศ มีผลต่อการเปลี่ยนคุณสมบัติของมวลอากาศ เช่น
ั
5.3.1 ภูเขา การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ ของมวลอากาศจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสัมพนธ์ระหว่าง
ทิศทางการวางตัวและความสูงของแนวเทือกเขากับทิศทางการเคลื่อนตัวเข้ามาของมวลอากาศ
5.3.1.1 ด้านหน้าภูเขา (Windward side)
ก. ความชื้นในอากาศจะถูกลดจำนวนลง เนื่องจากเกิดน้ำฟา เช่น มวลอากาศที่มีความชื้น
้
มากเมื่อเคลื่อนตัวขึ้นตามลาดเขาด้านหน้า ความชื้นในมวลอากาศนั้นจะลดลง เมื่อเกิดการกลั่นตัวเป็นน้ำฟา
้
ข. การทรงตัวของอากาศไม่ดี (Unstable) เนื่องจากการยกตัวตามลาดเขา (Orographic
lifting) แม้ว่าความชื้นจะลดลงระหว่างที่เกิดการกลั่นตัว ความร้อนถูกปล่อยออกมาด้วย เช่น ความร้อนแฝง เนื่องจาก
การกลั่นตัว การยกขึ้นนี้เป็นผลเนื่องมาจากอากาศถูกทำให้ร้อนจากเบื้องล่างด้วย
5.3.1.2 ด้านหลังภูเขา (Leeward side)
ก. อากาศจะร้อนกว่า, แห้งกว่า ด้านหน้าภูเขา ความชื้นสูญเสียไปตั้งแต่ด้านหน้าภูเขาแล้ว
ั
เมื่ออากาศเคลื่อนตัวมาถึงด้านหลังภูเขาจะร้อนขึ้นด้วยขบวนการอะเดียเบติก และปฏิกิริยาจากการอดตัวของอากาศ
(Compression)
ข. การทรงตัวของอากาศจะดีขึ้นเนื่องจากการจมตัวลง ในกรณีที่มวลอากาศเคลื่อนตัวขนาน
กับเทือกเขาจะสูญเสียคุณสมบัติไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
5.3.2 ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร (ที่ไม่แข็งตัว) ผลของการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติโดยทั่วไปแล้วสามารถ
ตรวจสอบได้จากด้านหลังลมของทะเลสาบนั้นๆ
5.3.2.1 เมื่อไซโคลนเคลื่อนตัวข้ามทะเลสาบ ยังผลให้มีการรวมตัวของกระแสอากาศ และเกิดการ
ก่อตัวของเมฆในแนวตั้งอย่างรุนแรง
5.3.2.2 เมฆที่เกิดขึ้นจะหนาประมาณ 5,000 - 6,000 ฟต ซึ่งจะทำให้เกิดฝนหรือหิมะตกได้บริเวณ
ุ
ทะเลสาบ หรือชายฝั่งใกล้เคียง
5.3.2.3 เมฆ SC จะปกคลุมอยู่เป็นแนวยาวหลายร้อยไมล์ทางท้ายลม (Downwind)

