Page 18 - ภูมิอากาศ
P. 18
18
ความแตกต่างนี้ก่อให้เกิดอุณหภูมิแตกต่างกันไปด้วย เช่น ภาคตะวันตกของทิวเขาตะนาวศรี เป็นเขตรับลมมีฝนตก
ึ่
ชุกกว่าทางด้านตะวันออกซงเป็นเขตกำบังฝนหรือเรียกว่าด้านอับลม
2.7 ลมและมวลอากาศ (Wind and Airmass)
ั
ลมประจำปีที่พดผ่านส่วนต่างๆ ของโลก เช่น ลมประจำถิ่น ลมประจำฤดู ย่อมทำให้เกิดอากาศ
เปลี่ยนแปลงและพายุแปรปรวน
2.8 ลักษณะภูมิประเทศ (Landform)
เทือกเขาที่สูงชันจะช่วยกันลมไม่ให้ไปตกในบริเวณถัดไปทำให้ลักษณะภูมิอากาศสองบริเวณ
แตกต่างกัน บริเวณที่ราบสูงอุณหภูมิจะเย็นกว่าที่ราบต่ำ
ี่
3. องค์ประกอบทสำคัญของอากาศ
ึ
การศึกษาเกี่ยวกับอากาศนั้นจะศกษาองค์ประกอบของอากาศทั้งหมด ซึ่งได้แก ่
3.1 อุณหภูมิ ความร้อนของบรรยากาศ
3.2 ความกดอากาศ
3.3 ลม ทิศทาง และความเร็วลม
3.4 ความชื้นในอากาศ รวมทั้งหมอก เมฆ และน้ำฟ้า
ื้
ในการศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบของอากาศนี้จะกระทำทั้งสถานีตรวจอากาศภาคพนดิน และ
การหยั่งอากาศที่สูงขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere)
3.1 อุณหภูมิ ความร้อนของบรรยากาศ
3.1.1 รังสีจากดวงอาทิตย์
ความร้อนในโลกนั้นแทบจะพดได้ว่า เกือบทั้งหมดมาจากดวงอาทิตย์ ความร้อน
ู
ั
ุ
นั้นเป็นส่วนหนึ่งของรังสีดวงอาทิตย์ ต้องเข้าใจก่อนว่าดวงอาทิตย์เป็นมวลอนหนึ่งซึ่งบริเวณผิวมีอณหภูมิสูงถึง
6,000 องศาเซลเซียส อณหภูมิขนาดนี้ทุกอย่างในโลกจะมีสภาพเป็นก๊าซเช่นเดียวกับที่ดวงอาทิตย์เป็นก๊าซ
ุ
ซึ่งเปล่งพลังงานที่เป็นรังสีออกมาเรียกว่า รังสีแม่เหล็กไฟฟา (Electromagnetic Radiation) รังสีนี้แถบความถี่
้
ต่างๆ ปะปนกัน และเดินทางด้วยความเร็วค่อนข้างสม่ำเสมอ 300,000 กม.ต่อวินาที (186,000 ไมล์ต่อวินาที)
ใช้เวลาเดินทางจากดวงอาทติย์มาถึงโลก (150 ล้าน กม.) ในเวลา 8 นาที
รังสีดวงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสีแถบคลื่นสั้นมาก ได้แก่ รังสีเอกซ์ (X-rays)
็
รังสีแกมมา (Gamma rays) และรังสีอลตร้าไวโอเลต (Ultraviolet rays) รวมแล้วประมาณร้อยละ 9 ของรังสี
ุ
ดวงอาทิตย์ ถัดมาเป็นรังสีแสงสว่าง (Light rays) เป็นรังสีให้ความสว่าง มนุษย์สามารถมองเห็นซึ่งมีอยู่ 7 แถบสี มี
ึ้
อยู่ประมาณร้อยละ 41 ที่เหลือร้อยละ 50 เป็นรังสีอินฟราเรดและรังสีความร้อน รังสีนี้เองที่ก่อให้เกิดความร้อนขน
ุ
แก่โลก อย่างไรก็ตามรังสีดวงอาทิตย์มีความถี่สูงมาก หรือมีช่วงคลื่นสั้นมาก ซึ่งไม่มีผลต่ออณหภูมิของบรรยากาศ
โดยตรง
3.1.2 การกระจายของรังสีดวงอาทิตย์บนพื้นโลก
พลังงานจากดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานอันมหาศาลประมาณกันว่าพลังงานนี้ในลักษณะ
ที่ตั้งฉากจะมีค่า 2 กรัมแคลอรี่ตารางเซนติเมตรต่อนาที ค่าของพลังงานดวงอาทิตย์วัดเป็นหน่วยแลงเลย์
(Langley) (พลังงานแสงแดดที่โลกได้รับในแต่ละนาที นอกเขตบรรยากาศต่อพนที่ 1 ตารางเซนติเมตร ทำให้
ื้
ี
ุ
อณหภูมิของน้ำ 1 กรัมมอณหภูมิสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส) ดังนั้นพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ส่งออกมามีค่า 2 แลงเลย์
ุ

