Page 18 - ทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา
P. 18

14


               มีค่าเท่ากับน้ำหนักของอากาศที่อยู่ระหว่าง 2 ระดับนั้นในลำอากาศเดียวกันนั่นเอง ถ้าให้ความกด p  ที่ความสูง h
                                                                                                 1
                                                                                                            1
                             2
                                        2
               และ  ความกด p  ที่ความสูง h  และความหนาแน่นเฉลี่ยของอากาศที่อยู่ระหว่าง 2 ระดับนั้นเป็น d
























                                          รูปท 2-5 ความต่างของความกดอากาศสองระดับ
                                              ี่

                           จะได้ว่า p  -p  = d.g.(h  -h ) เมื่อ g คือแรงโน้มถ่วงของโลก
                                                   1
                                   1
                                       2
                                               2
                           หรือ       p  = d.g.h
                       เรียกว่า สมการของของไหล (Hydrostatic equation)

                          ถ้าเราทราบ d เราก็จะคำนวณผลต่างความสูง h ได้จากการวัด p , p  มาก่อน
                                                                            1
                                                                               2
                          ความหนาแน่นของอากาศมีความสัมพันธ์กับอุณหภูมิและความกด โดยจะแปรผกผัน (inversely
               proportional)กับอุณหภูมิและแปรตาม (directly proportional)กับความกด ดังนั้นจะพบว่า "Isobaric surface ใน
               อากาศเย็นจะอยู่ชิดกันมากกว่าในอากาศอุ่น" หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า "ความกดจะลดลงตามความสูงในอากาศเย็น

               ได้มากกว่าในอากาศร้อน"

                         ความหนาแน่นของอากาศจะลดลงอย่างรวดเร็วตามความสูงเป็นผลจากการลดลงของความกดนั้น หมายความว่า
               ระยะห่างระหว่างพื้นผิวความกดอากาศเท่า (Isobaric surface) จะเพิ่มขึ้นเมื่อความกดอากาศลดลง หรือความกด

               อากาศในบริเวณความกดอากาศสูงจะลดลงได้เร็วกว่าบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ

               4. รูปแบบของความกดอากาศ (Pressure pattern)

                       ในแผนที่อากาศ รูปแบบของความกดอากาศจะแสดงด้วยเส้นต่อเนื่อง เรียกว่า ไอโซบาร์ (Isobars) ซึ่งเป็น
               เส้นที่ต่อเชื่อมเอาทุกบริเวณที่มีความกดอากาศเท่ากัน ณ ระดับเดียวกัน แต่เนื่องจากสถานีตรวจอากาศมักอยู่ ณ

                                                                                                           ื
               ระดับความสูงต่างๆ กัน เราจึงต้องแก้ไขเปลี่ยนค่าความกดที่ตรวจวัดได้ ให้เป็นค่าที่ระดับมาตรฐานเดียวกันคอ
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23