Page 23 - ทฤษฎีอุตุนิยมวิทยา
P. 23
19
ตัวอย่าง จากรูปท 2-6 สมมุติตั้ง QNH ที่สนามบินต้นทางเชียงใหม่ 30.20 นิ้วปรอท และบินต่อไปตาม
ี่
เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ โดยไม่ได้ปรับตั้ง QNH ใหม่จนถึงสนามบินปลายทางกรุงเทพฯ ซึ่งมี QNH 29.70 นิ้ว
ปรอท ในกรณีนี้ บ.จะบินไปตามพื้นผิวความกดอากาศเท่า สมมุติเป็น 850 hPa จะพบว่าที่ปลายทางกรุงเทพฯจะมี
พื้นผิวความกดอากาศเท่าอยู่ในระดับต่ำกว่าเชียงใหม่ นั่นคือ ความกดอากาศที่ C=B=850 hPa แต่ที่ A น้อยกว่า
850 hPa
่
เนื่องจากที่ระดับน้ำทะเล ความกด 1 นิ้วปรอท มีค่าเท่ากับระยะสูงประมาณ 1,000 ฟุต แสดงว่าคาแตกตาง
่
ของ QNH ที่เชียงใหม่และที่กรุงเทพฯซึ่งมีค่า 0.5 นิ้วปรอท จะทำให้ บ.เสียระยะสูงไปถึง 500ฟุตหากไม่ตั้ง (Set)
QNH เสียใหม่
สรุปได้ว่า "หากบินเข้าไปหาความกดอากาศต่ำ (บินจาก High ไป Low) โดยไม่ตั้ง QNH ตามสนามบิน
ปลายทางจะพบว่า บ.จะอยู่ต่ำกว่าระยะสูงที่อ่านได้ นั่นคือ ระยะสูงที่อ่านได้จะมีค่ามากกว่าที่เป็นจริงและหากบินเขา
้
หาความกดอากาศสูงระยะสูงที่อ่านได้จะมีค่าต่ำกว่าที่เป็นจริง
6.3.2 ความผิดพลาดจากอุณหภูมิ (Temperature error) ถึงแม้ว่าความกดที่ระดับน้ำทะเลจะไม่
ี่
เปลี่ยนแปลงตลอดเส้นทางบิน ระยะสูงที่ไม่ถูกต้องก็ยังคงเป็นไปได้จากผลของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิทเกิดขึ้น
จริง ไม่เป็นไปตามบรรยากาศมาตรฐานความชื้นก็มีผลเหมือนกันแต่น้อยมากจนตัดทิ้งได้ ถ้าอากาศเย็นกว่าบรรยากาศ
มาตรฐานมันจะมีความหนาแน่นมากกว่า บ.ก็จะอยู่ต่ำกว่าที่เครื่องวัดระยะสูงบอก ตรงข้ามถ้าอากาศร้อนกว่า บ. ก็จะ
อยู่สูงกว่าที่เครื่องวัดระยะสูงบอก
ถ้าให้ h และ d เป็นความสูงและความหนาแน่นของบรรยากาศมาตรฐาน
s
s
h และ d เป็นความสูงและความหนาแน่นของบรรยากาศจริง
a
a
จากสมการของของไหล (Hydrostatic Equation) จะได ้
P-P = -d x g x h = -d x g x h
a
s
a
s
O
h ÷ h = d ÷ d
s
s
a
a
แต่ความหนาแน่น d เป็นอัตราส่วนกลับกับอุณหภูมิ ดังนั้น h ÷ h = T ÷ T
a
a
s
s
ู
จากสมการนี้สรุปได้ว่า "ถ้าอากาศจริงเย็นกว่าบรรยากาศมาตรฐาน T < T แล้ว ระยะสูงจริงก็จะมีค่าน้อยกว่าระยะสง
s
a
ในบรรยากาศมาตรฐาน h < h ด้วย และตรงข้าม ถ้า T > T จะได้ h > h
a
a
s
s
a
s

