Page 25 - ภูมิอากาศ
P. 25

25


                                   ตราบใดที่อากาศยังไม่อมตัวด้วยไอน้ำ น้ำจะยังคงระเหยเข้าสู่บรรยากาศอยู่
                                                          ิ่
                                                                                   ื้
                                               ั
                                                                      ื้
              ตลอดเวลา การระเหยของน้ำหมายถึงอตราที่น้ำกลายเป็นไอจากพนผิวต่อหน่วยพนที่ต่อหน่วยเวลา โดยทั่วไป
              วัดเป็นความลึกที่น้ำหายไปในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เช่น 24 ชั่วโมง เป็นต้น
                                   ลักษณะของการระเหยของน้ำในประเทศไทยจะคล้ายคลึงกันทุกภาค ในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่

               ุ
              อณหภูมิต่ำ ความชื้นในอากาศยังมีมาก ปริมาณการระเหยจะอยู่ในระดับต่ำ ในช่วงฤดูร้อนซึ่งอณหภูมิความชื้นใน
                                                                                            ุ
              อากาศมีน้อย การระเหยของน้ำจะมีปริมาณมาก
                                                                                                         ื่
                                        ิ
                                                                                  ั
                                   เมื่อพจารณาเป็นภาคแล้วพบว่า ภาคตะวันออกนับว่ามีอตราการระเหยต่ำกว่าภาคอนๆ
              ทั้งนี้เพราะเป็นภาคที่อยู่ติดทะเล อากาศมีความชื้นสูง ส่วนภาคที่มีอตราการระเหยมากที่สุดได้แก่ภาค
                                                                            ั
                                             ี่
                                                             ั
                                                                                            ั
              ตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นภาคทอยู่ไกลทะเล มีลมพดแรง ส่วนภาคเหนือในฤดูหนาวจะมีอตราการระเหยน้อย
                              ุ
              เพราะภาคเหนือมีอณหภูมิต่ำก่วาภาคอื่นๆ มีความชื้นสัมพัทธ์ค่อนข้างสูงประกอบกับลมพัดช้ากว่าทุกภาค ส่วนฤดู
              ร้อนอัตราการระเหยจะเท่ากับภาคกลางและภาคใต้ สำหรับภาคกลางกับภาคใต้นั้นมีอัตราการระเหยคล้ายคลึงกัน
                                   3.4.2  ความชื้นสัมพัทธ์ในประเทศไทย

                                   สำหรับในประเทศไทยนั้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือมีรูปแบบการ

                                                                                    ั
              เปลี่ยนแปลงความชื้นสัมพทธ์ในรอบปีคล้ายคลึงกัน คือ ในฤดูหนาวความชื้นสัมพทธ์จะสูง เพราะเป็นช่วงที่มี
                                     ั
                                             ุ
               ุ
                                                                                  ั
              อณหภูมิต่ำ เมื่อถึงฤดูร้อนซึ่งช่วงที่อณหภูมิสูง น้ำบนผิวดินมีน้อย ความชื้นสัมพทธ์จะลดลงจนย่างเข้าสู่ฤดูฝน
                                                                                         ิ่
                                 ิ
              เมื่อประเทศไทยได้รับอทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ความชื้นสัมพทธ์จะค่อยๆ เพมขึ้นและเพมขึ้นสูงสุด
                                                                            ั
                                                                                                  ิ่
                                                                              ุ
              ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้ง 2 ภาคมีฝนตกและมีน้ำผิวดินสมบูรณ์แม้อณหภูมิจะสูงแต่ไอน้ำก็มีมาก ทำให้
                                                    ั
              ความชื้นสัมพัทธ์สูงไปด้วย จากนั้นความชื้นสัมพทธ์จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ก็ยังคงมากว่าในฤดูร้อน
                                   สำหรับภาคใต้กับภาคกลางนั้น  ความชื้นสัมพทธ์จะอยู่ระหว่างร้อยละ 75 - 80 ตลอดปี
                                                                         ั
              และมีความแปรปรวนน้อย ทั้งนี้เพราะทั้ง 2 ภาคได้รับอิทธิพลจากทะเลตลอดปี
                                   ส่วนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับลมทะเลตลอดปี และเป็นด้านรับลม จึงมี
              ความชื้นสัมพทธ์สูงตลอดปี โดยในฤดูหนาว ซึ่งอทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง จะทำให้
                         ั
                                                       ิ
              ความชื้นสัมพทธ์ต่ำลง แต่ยังอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 75 จากนั้นความชื้นสัมพทธ์จะเพมขึ้นอย่างช้าๆ เพราะ
                                                                                         ิ่
                                                                                  ั
                         ั
              ได้รับอิทธิพลของลมทะเลจากอ่าวไทย และจะขึ้นสูงสุดในเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลัง
              แรง และได้รับความชื้นส่วนหนึ่งจากพายุหมุน

                                                                                                         ั
                                   เมื่อพจารณาระดับความชื้นสัมพทธ์เฉลี่ยในรอบปี ประเทศไทยจะมีความชื้นสัมพทธ์
                                                               ั
                                        ิ
              ระหว่างร้อยละ 63 - 66
                                   3.4.3  ปริมาณน้ำฝนประเทศไทย

                                   โดยเฉลี่ยแล้วประเทศไทยจะมีฝนตกประมาณปีละ 1,550 มิลลิเมตร (60 นิ้ว) ซึ่งนับว่า

              อยู่ในเกณฑ์ดี บริเวณที่ฝนตกชุกนั้นส่วนมากอยู่ตามชายฝั่งทะเล พื้นที่ที่มีฝนน้อยส่วนมากจะอยู่ในเขตเงาฝน
                                   3.4.4  รูปแบบการกระจายของปริมาณฝนในประเทศไทยเฉลี่ยรายปี

                                   การกระจายของฝนในประเทศไทยโดยเฉลี่ยนั้น โดยทั่วไปแล้วทางตอนบนของประเทศ
              จะมีฝนตกน้อยกว่าทางตอนล่างของประเทศ ทั้งนี้เพราะทางตอนบนอยู่ไกลทะเลมากกว่า สำหรับภาคเหนือนั้นมี

              ฝนตกตั้งแต่ 800-2,000 มิลลิเมตร บริเวณที่มีฝนตกมากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นบริเวณที่มีเทือกเขา

              สูง สามารถกั้นความชื้นไว้ได้มาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตั้งแต่ 800-2,400 มิลลิเมตร ทางตะวันออก
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30