Page 39 - สภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อการบิน
P. 39
๓๙
รูปที่ ๕-๑๑
๔. กระแสอากาศปั่นป่วนที่เกิดจากแนวปะทะอากาศ (Frontal Turbulence)
ี่
กระแสอากาศปั่นป่วนชนิดนี้ เกิดจากการยกตัวของอากาศทอุ่นกว่าตรงส่วนหน้าของแนวปะทะอากาศ
ุ่
เนื่องจากการปะปน หรือความแตกต่างของทิศทางลมในมวลอากาศอนและเย็น จึงเกิดกระแสอากาศปั่นป่วน
ุ่
ขึ้น การไหลขึ้นของอากาศจะมีมากเมื่ออากาศอนนั้นมีการทรงตัวไม่ดี และมีความชื้นมาก กระแสอากาศ
ปั่นป่วนชนิดนี้จะรุนแรงที่สุด โดยสังเกตได้จากเมื่อแนวปะทะอากาศเย็นที่เคลื่อนที่เร็ว
รูปที่ ๕-๑๒
๕. กระแสอากาศปั่นป่วนที่เกิดจากลมพัดในทิศทางตัดกัน (Wind Shear Turbulence)
การเปลี่ยนแปลงความเร็วลมหรือลมที่พดในทิศทางตัดกันตามทางดิ่งหรือทางระดับ (Wind Shear)
ั
จะเป็นผลท าให้เกิดกระแสอากาศปั่นป่วนขึ้น ถ้าความเร็วและทิศทางลมมีการเปลี่ยนแปลงมาก ก็จะเกิดกระแส
อากาศปั่นป่วนอย่างรุนแรงตามมา กระแสอากาศปั่นป่วนชนิดนี้มักจะเกิดในบริเวณกระแสลมกรด ซึ่งมีการ
เปลี่ยนแปลงความเร็วลมมากทงในทางดิ่งและทางระดับ ลักษณะเช่นนี้มักจะเกิดในบริเวณที่มีอากาศแจ่มใส จึง
ั้
เรียกว่ากระแสอากาศปั่นป่วนในอากาศแจ่มใส (Clear Air Turbulence) มีรายละเอียดตามหัวข้อ ๓.๓
กระแสอากาศปั่นป่วนบางครั้งอาจเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินไต่ขึ้นหรือร่อนลงสู่สนามบิน ในขณะที่มีการ
เพิ่มอุณหภูมิตามระยะสูง ตัวอย่างเช่น ในบริเวณที่มีลมสงบ อากาศเย็นมักจะเกิดขึ้นตามหุบเขา อันเนื่องมาจาก
ความเย็นในตอนกลางคืน ขณะเดียวกันถ้ามีอากาศอุ่นกว่าเคลื่อนเข้ามาซ้อนทับ ความแตกต่างของความเร็วลม
ในอากาศทั้งสองนั้นจะท าให้เกิดการปะทะกันขึ้น จึงเกิดกระแสอากาศปั่นป่วนในบริเวณแคบ ๆ

