Page 21 - สภาพอากาศในอวกาศ
P. 21
20
ี
น้อยและความถี่ของการเกิดการปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรนาก็มค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตามโคโรนาโฮลส์จะ
เป็นบริเวณกว้างและคงอยู่ได้นานกว่า
สองสามปีถัดจากช่วงที่เกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ต่ำสุดแล้ว การเกิดจุดมืดและการลุกจ้าของดวง
อาทิตย์จะเพิ่มขึ้นทั้งความถี่ในการเกิดและความรุนแรง ทั้งนี้เนื่องจากความแตกต่างของอัตราการหมุนรอบ
ตัวเองของดวงอาทิตย์ทำให้สนามแม่เหล็กที่อยู่ใต้พื้นผิวของดวงอาทิตย์ม้วนบิดตัว จนในที่สุดจะทะลุผ่านชั้น
โฟโตสเฟียร์ในบริเวณที่มีกิจกรรม (Active region)ขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับจุดมืดบนดวงอาทิตย์ กิจกรรมเหล่านี้จะ
เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสูงที่สุด (กล่าวโดยทั่วไปคือจำนวนของการสังเกตเห็นจุดมืดบนดวงอาทิตย์มีมากที่สุด)
เรียกว่าช่วงที่เกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์มากที่สุด (Solar maximum) อาจยาวนานหลายเดือน หรือสองถึง
ี่
สามปี ดังนั้นตลอดช่วงเวลาหลายๆปีของการเกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์มากทสุดจะเปลี่ยนกลับลงสู่ช่วงที่เกิด
กิจกรรมบนดวงอาทิตย์ต่ำสุดอีกครั้งก่อนที่จะวงรอบใหม่จะเกิดต่อเนื่องกันไป
วัฎจักรกิจกรรมดวงอาทิตย์ในวงรอบ 11 ปี แสดงดังรูปที่ 24 ช่วงที่เกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ต่ำ
ที่สุดเกิดในระหว่างปี ค.ศ.2008-2009 คาดได้ว่าช่วงที่เกิดกิจกรรมบนดวงอาทิตย์มากที่สุดจะเกิดขึ้นราว ๆ ปี
ค.ศ.2012 หรือ 2013 นั่นคือมีโอกาสเกิดการลุกจ้า การปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรนาและโปรตรอนพลังงาน
สูงจะมีความถี่เพิ่มสูงขึ้น
รูปที่ 24 วัฏจักรกิจกรรมดวงอาทิตย์ในวงรอบ 11 ปี (ณ เดือนธันวาคม 2010)
4. ผลกระทบของสภาพอากาศในอวกาศ (Space Weather Impacts) ผลกระทบโดยตรงจากสภาพอากาศ
ี่
ในอวกาศต่อการบินประกอบด้วยการลดทอนสัญญานคลื่นวิทยุหลายย่านความถและอันตรายจากรังสี สำหรับ
สัญญาณคลื่นวิทยุรวมทั้งที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เรดาร์และการทำงานของระบบนำทาง (Navigation functions)
4.1 ผลกระทบต่อคลื่นสัญญาณความถี่สูง (HF Signal impacts)
การติดต่อสื่อสารและการทำงานของเรดาร์ในช่วงคลื่นวิทยุย่านความถี่สูงค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อการ
รบกวนที่เกิดขึ้นในบรรยากาศในชั้นไอโอโนสเฟียร์ ทั้งนี้คลื่นวิทยุย่านความถี่สูงโดยปกตินำมาประยุกต์ใช้ใน
การติดต่อสื่อสารระยะไกล (Long Range Application) ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างมากและไม่สามารถ
เพิกเฉยต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นได้เลยเพราะผลกระทบต่อคลื่นวิทยุย่านความถี่สูงอาจเกิดขึ้นได้ทุกแห่งตามแนว
ที่ส่งสัญญาณไม่เพียงแต่จะกระทบต่อสถานีส่งสัญญาณหรือสถานีรับสัญญาณเท่านั้น
ช่วงรุ่งอรุณและพลบค่ำ ซึ่งเป็นห้วงเวลาใกล้กับดวงอาทิตย์ขึ้นและดวงอาทิตย์ตก นับว่าเป็นช่วงที่มี
ความท้าทายอย่างมากต่อการทำงานของคลื่นวิทยุย่านความถี่สูง เพราะว่าในช่วงเวลาดังกล่าวระดับที่อยู่ต่ำ ๆ
ในบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานรังสีดวงอาทิตย์ บ่อยครั้งที่สถานี

