Page 23 - สภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อการบิน
P. 23
๒๓
รูปที่ ๓-๖
๑.๒.๒.๒ หมอกไอน้ า (Steam fog) โดยทั่วไปจะเกิดในเขตอบอุ่นระหว่าง
ฤดูใบไม้ร่วงถึงต้นฤดูหนาว ในขณะที่น้ ายังคงอนอยู่และอากาศเย็นจากพนดินเคลื่อนตัวมาซ้อนทับ หมอกชนิด
ุ่
ื้
นี้เป็นหมอกที่เกิดจากการไม่ทรงตัวของอากาศ (Unstable type fog) เมื่อมีการระเหยกลายเป็นไออย่าง
ุ
ิ่
หนาแน่นจากผิวน้ าเข้าสู่อากาศที่เย็นกว่า จึงเกิดการกลั่นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้ชั้นการเพมอณหภูมิตาม
ระยะสูงเหนือผิวน้ า โดยที่ขบวนการนี้อากาศจะต้องมีอณหภูมิต่ ากว่าอุณหภูมิของน้ ามากๆ จึงมักจะเกิดการพา
ุ
ในทางตั้ง
ในฤดูหนาวเขตที่ได้รับอทธิพลของมวลอากาศจากขั้วโลกเหนือ (Arctic air)
ิ
ื้
มักจะเกิดหมอกชนิดนี้ขึ้นมาก หมอกจะยกตัวขึ้นจากพนน้ าบางทีเรียกว่า ควันทะเล (Sea smoke) ในบริเวณ
ดังกล่าวหมอกจะแผ่ขยายสูงขึ้นถึง ๕,๐๐๐ ฟุต ท าให้เกิดเมฆคิวมูลัส (Cumulus) ที่มีฐานอยู่ติดกับพื้นน้ า (เป็น
ลักษณะเฉพาะที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้)
๒. เมฆ และน้ าฟ้า (Cloud and Precipitation)
เมฆ คือไอน้ าที่กลั่นตัวแล้วรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนลอยอยู่ในอากาศ อาจมีสภาพเป็นหยดน้ าเล็ก ๆ
หรือเป็นน้ าแข็งเล็ก ๆ (Ice particle) การเกิดเมฆแต่ละชนิดจะสัมพันธ์กับสภาวะของความชื้นในอากาศอยู่มาก
การกลั่นตัวของความชื้นในอากาศที่ท าให้เกิดเป็นเมฆชนิดต่าง ๆ นั้นขึ้นอยู่กับจ านวนไอน้ าเป็นส าคัญ ทัศนวิสัย
ในเมฆจะลดลงเนื่องมาจากหยดน้ าในก้อนเมฆ และยังขึ้นอยู่กับชนิดของเมฆด้วย ในเมฆชั้นสูงโดยทั่ว ๆ ไปทัศน
วิสัยมากกว่า ๑,๐๐๐ เมตร ในเมฆชั้นกลางจะอยู่ระหว่าง ๑,๐๐๐-๒๐ เมตร ส าหรับเมฆชั้นต่ าปกติจะน้อยกว่า
๓๐ เมตร ยกเว้นเมฆก่อตัวทางตั้งขนาดใหญ่ (Towering cumulus) และเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus)
บางครั้งอาจต่ ากว่า ๑๐ เมตร และถึงศูนย์ได้ในเมฆที่หนามาก ๆ เมฆที่มีฐานต่ า เช่น เมฆสเตรตัสจะเป็น
อุปสรรคมากในการลงสนามของอากาศยาน
น้ าฟา (Precipitation) คือ ผลจากการกลั่นตัวของไอน้ าและตกลงมาผ่านชั้นบรรยากาศ จะมีลักษณะ
้
้
รูปร่างแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่ท าให้เกิดน้ าฟา โดยทั่วไปน้ าฟาเกิดจากการเคลื่อนตัวขึ้นลง
้
ในก้อนเมฆอย่างรวดเร็ว จนท าให้ความชื้นในก้อนเมฆเกิดการกลั่นตัวเป็นหยดน้ าตกลงสู่พนโลก ลักษณะของ
ื้
น้ าฟ้าที่ส าคัญนั้นมีอยู่หลายชนิด เช่น

