Page 28 - สภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อการบิน
P. 28
๒๘
๔. สภาพอากาศที่เป็นสาเหตุท าให้เกิดลมพัดตัดกันในระดับต่ า
มีปรากฎการณ์ของสภาพอากาศหลายชนิดที่สามารถทาให้เกิดลมพัดตัดกันในระดับต่ าได้ เช่น พายุฟา
้
คะนอง, Microbursts, แนวปะทะอากาศ, กระแสลมเจ็ตในระดับต่ าซึ่งเกิดเหนือชั้นอณหภูมิกลับอน
ั
ุ
เนื่องมาจากการแผ่รังสี (Low level jets at the top of radiation inversion), ลมช่องเขา (Funneling
wind) และ คลื่นภูเขา
๔.๑ พายุฟ้าคะนอง (Thunderstorm) ลมบริเวณภายในและรอบๆ พายุฟ้าคะนองนั้นมี
้
ั
ทิศทางแตกต่างกัน ดังรูปที่ ๔-๕ โดยมีกระแสลมเย็นไหลลงพดออกมาจากฐานของเมฆพายุฟาคะนอง โดยแผ่
ื้
้
ไปทุกทิศทางก่อนที่เข้ามาใกล้พนผิวโลก และมีบริเวณของลมกระโชกอยู่ใกล้ๆ กับพายุฟาคะนอง แนวที่แบ่ง
ระหว่างอากาศเย็นจากพายุฟ้าคะนองกับอากาศอุ่นเดิมที่ผิวพื้น เรียกว่า Gust front
รูปที่ ๔-๕
Gust front มักพบได้บ่อยๆ ที่สามารถแผ่ออกไปได้ไกลถึง ๑๐-๒๐ ไมล์ จากบริเวณที่เกิด
พายุฟาคะนอง เคยตรวจพบลมพดตัดกันวัดได้ในทันทีที่ Gust front เคลื่อนตัวผ่าน มีค่า ๑๐ นอตต่อระยะสูง
ั
้
ั
ุ
๑๐๐ ฟตในทางตั้ง ในขณะที่ลมพดตัดกันในทางระดับมีค่า ๔๐ นอตต่อระยะทาง ๑ ไมล์ ในกรณีที่เกิดลมพด
ั
ั
้
ตัดกันที่มีความรุนแรงมาก ส่วนใหญ่จะเกิดร่วมกันกับพายุฟาคะนองขั้นรุนแรง ซึ่งจะเกิดลมพดตัดกันของ
ทิศทางลม (Directional shears) จะมีค่าตั้งแต่ ๙๐ - ๑๘๐ องศา โดยกระแสอากาศไหลลง (Downdraft) ของ
้
่
พายุฟ้าคะนองจะกอให้เกิดลมพัดตัดกันที่มีอันตรายมาก ซึ่งจะเกิดร่วมกันกับกระแสอากาศไหลออกของพายุฟา
คะนอง ดังตัวอย่าง ดังรูปที่ ๔-๖ ขณะที่อากาศยานก าลังบินเข้าสู่บริเวณที่มี Gust front และกระแสอากาศ
ไหลลงนั้นจะพบทั้งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของลมในแนวนอน รวมถึงการเคลื่อนที่ลงในทางตั้งอกด้วย ซึ่ง
ี
ุ
สามารถท าให้อากาศยานเสียระยะสูงในขณะร่อนลงหรือไต่ระดับได้ประมาณ ๒,๐๐๐ ฟตต่อนาทีหรือมากกว่า
ดังรูปที่ ๔-๗ ขณะที่อากาศยานก าลังจะวิ่งขึ้น จะประสบกับทั้งกระแสอากาศไหลลงและลมส่งท้าย จะท าให้เกิด
การสูญเสียแรงยก หากอากาศยานอยู่ใกล้ ๆ กับพื้นดิน จะมีโอกาสประสบอุบัติเหตุได้

